เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านม�?กรมสรรพสามิตได้จัดเสวนา �?2 ปี กรมสรรพสามิต�?ในการนี้ทางกรมสรรพสามิตเชิญอดีตอธิบดีซึ่งมาร่วมเสวนา ผู้มีอาวุโสสุด คื�?นายอรั�?ธรรมโน วั�?90 ปี หรืออ่อนกว่ากรมเพียง 2 ปี อดีตอธิบดีเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการเติบโตของกรมจัดเก็บรายได้ที่เล���กที่สุ�?และเกือบจะถูกยุบตามข้อเสนอของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้�?แต่ก็พลิกตัวรอดพ้นมาได�?และยังสามารถจัดเก็บภาษีรายได้จากน้ำมันได้ถึงปีละ 2 แสนล้านบาท สามารถปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสุร�?ผ่านการปรับปรุงและออกกฎหมายใหม่หลายครั้ง รวมไปถึงภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย ภาษีบาปต่า�?�?

ลองมาดูเรื่องราวเส้นทางการเติบโตของกรมจัดเก็บภาษีที่เคยได้ชื่อว่า กรมภาษ�?“สุร�?พาชี กีฬา บัตร�?จนก้าวมาสู�?กร�?ESG (Environment, Social, แล�?Governance) ในยุคการพัฒนาเพื่อการยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโล�?/p>

“อรัญ ธรรมโน” ออกก�?น้ำมันฉบับแร�?/h2> เริ่มด้วยนายอรั�?ที่รับราชการกระทรวงการคลังตั้งแต่ป�?2497 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการคลั�?แต่เหมือนชีวิตจะผูกพันกรมสรรพสามิต เพราะในปี 2508 ถูกส่งมาเป็นผู้ร่วมเขียนกฎหมายภาษีน้ำมันฉบับแร�?ถือเป็นการวางรากฐานการจัดเก็บภาษีน้ำมันจนทำรายได้ให้ประเทศสูงเป็นอันดั�?4 ในปัจจุบัน จากนั้นปลายป�?2510 ก็ถูกย้ายมาเป็นผู้ควบคุมโรงงานที่กรมสรรพสามิ�?โดยงานสำคัญของนายอรั�?สมัยอยู่กรมสรรสามิ�?คื�?ประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิตฉบับแรก เมื่อปี 2527 “ตอนนั้นโชคดีที่ได้เป็นประธานกรรมาธิการกฎหมายนี้เอง ที่ได้เป็นประธานกรรมาธิการเพราะไม่มีใครอยากให้มีประมวลกฎหมา�?ผู้แทนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ท�?ก็พยายามคัดค้านโดยวิธีต่าง �?ผมในฐานะประธานกรรมาธิการก็หนักใจมา�?เพราะเสนออะไ�?ทุกมาตราถูกแก้หม�?ผมเลยใช้วิธีง่ายๆ วิธีหนึ่�?มาตราไหนมีใครคัดค้านมา�?�?ผมก็ยกไว้ก่อนไว้พิจารณาทีหลั�?พอถึงวันสุดท้ายของการพิจารณา ผมก็ไปหาพบผู้แทนราษฎรที่เป็นนายทุนของแต่ละพรร�?และไปขอร้อ�?บอกว่า ช่วยมานั่งหน่อยได้ไหมวันนี�?พอนายทุนพรรคมานั่งแล้วเนี่ย คนที่ตั้งญัตติต่าง ๆไว้ถอนหมดเลย ไม่มีใครพูดสักคน ทำให้กฎหมายผ่านมาได้” อีกเรื่องเล่�?คื�?เมื่อย้อนไปยุคที่ถูกย้ายมากรมสรรพสามิตใหม�?�?ในฐานะผู้ควบคุมโรงงา�?ต้องออกตรวจโรงงานสุราที่มีอยู่แทบทุกจังหวัดทั่วประเทศในยุคนั้�?สภาพโรงงานไม่ค่อยสะอาด บางจังหวัดหลังคาปูด้วยใบตองตึง และเมื่อก่อนโรงงานสุราจะมีคอกสุกรอยู่ข้า�?�?เสม�?เพราะจะเอากากส่าจากเหล้ามาเลี้ยงหมูทำให้อ้วนเร็�?แล้วกากส่าเหล้านี่เหม็นมา�?เหม็นไปไก�? “ที่รู้เพราะเคยต้องไปตรวจโรงงานสุราจังหวัดบุรีรัมย์ ขึ้นรถไฟประมาณ 6 โมงเย็�?จะถึงบุรีรัมย์ประมาณตี 2-3 ก็เกรงว่าจะไม่ตื่�?ก็บอกเจ้าหน้าที่รถไฟว่าก่อนถึงบุรีรัมย์ชั่วโมงหนึ่งปลุกผมด้วยน�?ผู้แทนราษฎรคนหนึ่งที่นอนใกล้ห้องผมบอกว่า ไม่ต้องบอกเจ้าหน้าที่หรอก เพราะจะได้กลิ่นจากกากส่�?ก็ตื่นทันท�?คือความเหม็นจากกากส่าไกลเป็นชั่วโมงทีเดียว” อย่างไรก็ตาม สมัยตนเป็นอธิบด�?ปี 2525 ก็มีปรับปรุงโดยการรวบรวมโรงงานสุราทั้งหมดทั้งประเทศให้เหลือแค�?12 โร�?เพื่อจะสร้างแต่ละโรงให้ใหญ่ขึ้น จะได้ทันสมัยขึ้น

“เมื่อก่อนเราเป็นกรมเล็กแต่มีความสำคัญพอสมควร เพราะสมัยนั้นแม้ฝิ่นเพิ่งเลิกไ�?แต่เราก็ยังมีฝิ่นขายอยู่ แล้วผมเป็นคณะแรกที่มาอยู่ตึกหลังนี้ที่สร้างเมื่อปี 2512 ตรงวัดแก้วฟ้�?ห้องทำงานของผมอยู่ติดกับเมรุของวัดนะครั�?แล้วใต้ถุนของผมเนี่ย เป็นน้ำขังและมีปลาด้ว�?เพราะฉะนั้นเรานั่งทำงานไปด้ว�?บางทีก็ปลาก็กระโดดอยู่ใต้ห้องนี้นะครับ�?/p>

นายสมใจนึก เอ็งตระกู�?อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิตเล่าที่มาของการเปลี่ยนเครื่องแบบกรมสรรสามิต ว่�?ด้วยความที่เติบโตมาในสายปราบปรามของกรมศุลการ จึงเข้าใจคนที่อยู่สายปราบปรามเป็นอย่างดี เพราะเดิมฝ่ายปราบปรามกรมศุลกากรใส่เครื่องแบบสีกาก�?พอเข้าไปในเขตปาดังเบซาร�?ถูกโจรจีนยิงตายหมด เพราะคิดว่าเป็นทหารเรื�?ฉะนั้น การมีเครื่องแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของหน่วยงานเป็นสิ่งจำเป็�? “สำหรับที่กรมสรรพสามิ�?ที่เปลี่ยนเพราะมีการร้องเรียน เดิมเครื่องแบบของกรมสรรสามิตจะเป็นสีกาก�?มีดาวสีทองคล้ายของทหาร แต่ก็ไม่ใช่ทหา�?ตำรวจก็ไม่ใช�?เวลาไปพื้นที่ชาวบ้านก็ง�?เอ๊ะคุณคือตำรวจ หรืออะไร จึงคุยกันระหว่างผู้บริหา�?ทำให้มีเครื่องแบ�?2 สี คือสีน้ำเงินและสีขาวไว้ใช้ในงานพิธี มีบ่าอินเตอร์เนชั่นแนลที่เป็นขีด และมีนกวายุภักษ์ พอได้รูปแบบแล้วก็ต้องขอเสนอคณะรัฐมนตรี (คร�?) นายกรัฐมนตรี สมัยนั้น คื�?นายชวน หลีกภั�?ท่านบอกว่าจะเซ็นให้เป็นเครื่องแบบสุดท้าย ไม่ให้มีการเปลี่ยนอี�?เพราะต้องการให้ทุกคนแต่งเครื่องแบบพลเรือน ก็ต้องอ้างเหตุผลต่า�?�?ว่�?เป็นฝ่ายปราบปรา�?ต้องมีเครื่องแบบให้คนแยกแยะออกว่ามาจากหน่วยงานไหน ท่านจึงอนุญาตลงนามเข้�?คร�?”

“ศานิตย�?ร่างน้อย” อธิบดีสรรพสามิ�?‘จําเป็�?#8217;

นายศานิตย์ ร่างน้อย จากลูกหม้อกรมสรรพสามิต ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอธิบด�?แม้จะเป็นระยะเวลาสั้�?�?ระหว่างวันที�?16 พฤศจิกาย�?2549 – 24 มกราคม 2550 หรือประมาณ 2 เดือนเศษ แต่ก็ใช้ชีวิตราชการในกรมสรรพสามิตวางรากฐานระเบียบต่าง �?ไว้มากมา�?โดยเล่าว่า ไม่เคยคิดรับราชการ และต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศ พอดีกรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานเดียวที่ให้ทุนเรียนปริญญาโท ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่สหรัฐอเมริก�?พอสอบได้ไปเรียนแล้วกลับมาก็ได้เจอผู้ใหญ่ไปให้ช่วยเรื่องน้ำมั�?เรื่องโรงงานสุร�?ทำให้มีส่วนอย่างมากในการปรับปรุงให้เป็นโรงงานที่มีมาตรฐา�?/p>

“ผมโชคดีที่ได้มีผู้บังคับบัญชาหลายท่านนะครับที่ช่วยสอน ผมเป็นคนตั้งใจทํางา�?แล้วก็ช่วยเหลือผู้ใหญ�?งานทุกเรื่องผมค่อนข้างจะศึกษาแล้วก็เข้าใจอะไรหมด จนไต่เต้าได้เป็นอธิบดีสรรพสามิตจําเป็�?แม้จะระยะสั้�?แต่ก็ภูมิใจนะครับที่เป็นลูกหม้อสรรพสามิตจริงๆ ฉะนั้น ก็บอกพวกเราว่�?อย่าเพิ่งไปท้อใ�?อนาคตอยู่ที่เราเอง ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทํางานให้ดี ก็ไปได้ทุกที�?ไม่แพ้ใครนะครับ�?/p>

อย่างไรก็ตาม บทบาทของกรมสรรพสามิตต่อไปจะเปลี่ยนจากการเก็บภาษีบาป มาเป็นเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อ�?โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภา�?อธิบดีกรมสรรพสามิต มีบทบาทมากสำคัญและเป็นแนวทางของโล�?อย่างภาษ�?CBAM หรือ มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโร�?จึงหวังว่ากรมสรรพสามิตจะพัฒนาสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาให้เป็นภาษีที่ทันสมั�?/p>

“สมชา�?พูลสวัสดิ์” โครงการรถคันแร�?/h2>

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รับตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต วันที่ 1 ตุลาคม 2555-30 กันยาย�?2560 ในยุคความผันผวนทางการเมือง โดยนายสมชา�?ยอมรับว่�?เป็นการบริหารราชการภายใต้แรงกดดันทางการเมือง แต่ขณะเดียวกั�?ก็ประทับใจความมีน้ำใจของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตที่ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลในขณะนั้นใน 3 เรื่อ�?เริ่มจา�?1.นโยบายรถคันแรก ที่มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1.2 ล้านรายทั่วประเทศ 2. การจัดระเบียบร้านเหล้าสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาต�?(คส�?) แล�?3. การยกร่างพ.�?�?สรรพสามิ�?ที่มีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบั�?เป็นการปรับปรุงและรวบรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้อ�?โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าจะสำเร็�?/p> “อยากจะย้ำว่�?ความสำเร็จทั้งหมดมาจากความสามัคคีของคนในกรมสรรพสามิ�?อย่างโครงการรถคันแรก ที่เป็นโครงการใหม่ ต่อเนื่องด้วยรัฐบาลที่มีความขัดแย้�?เราก็ต้องบริหารความขัดแย้งนี้ โดยยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลั�?เพราะตอนนั้�?การลงทะเบียนรถยนต์คันแรก เฉพาะใน กท�? วันละร่วมหมื่นรายน�?ผมมาตั้งแต่ต�?4 ตี 5 มาถึงน้อ�?�?อยู่กันเต็มแล้�?บางคนมาตั้งแต่ตี 3 ขณะเดียวกั�?ก็ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขหลายอย่าง เป็นรายละเอียดที่ยุ่งยากมา�?เป็นโครงการที่ตั้งโดยนโยบายทางการเมืองที่เราต้องมาสานต่อ ทำระเบียบต่าง �?ให้รัดกุ�?ต้องมีการประชุมกันตลอด แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันทุกวั�?#8221; พร้อมบอกว่�?“ผมเองก็ได้รับแรงกดดัน จะมาจับอธิบดีออกไปพู�?แต่ว่าปิดโครงการไม่ได้ พี่น้องประชาชนต้องมาลงทะเบียนมาติดต่อเรื่องรถยนต์คันแรกเนี่ยวันนึงหลายพันค�?จะปิดได้ยังไ�? มีคนมาด่าว่า มีอดีตรัฐมนตรีนำทัพมาปิดถน�?แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาด้วยดี และแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของพวกเราที่รับผิดชอบในหน้าที่ของกร�?#8221;

นายกฤษฎา จีนะวิจารณ�?มารับตำแหน่งและสานต่อพ.�?�?สรรพสามิตฉบับใหม�?ทำให้หลายเรื่องต้องดำเนินการใหม่ โดยเฉพาะวิธีการจัดเก็บภาษีน้ำมั�?ที่นอกจากจะต้องเปลี่ยนวิธีจัดเก็บแล้�?จะต้องอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น แต่ผลกระทบคื�?รายได้ข้ามปีจะหายไ�?และที่น่าชื่นช�?คื�?ห้องไอที ของกรมที่สามารถมอนิเตอร์โรงงานน้ำมันได้หมดทุกแห่งจากห้องนี�?เป็นระบบที่ดีมา�? “ต้องขอบคุณชาวสรรพสามิต ขอบคุณอดีตอธิบดีทั้งหลายที่พัฒนากรมสรรพสามิตมาจนถึงวันนี�?ทำให้รายได้จากภาษีน้ำมันเป็นอันดั�?1 หรือปีละ 2 แสนกว่าล้านบาท แม้จะถูกดึงภาษีน้ำมันออกไปจากลิตรล�?5 บา�?เหลือ 1 บาทก็ตาม อีกตัวหนึ่งที่ผมชอบมาก คือภาษีบุหรี�?สนุกในการไปตอบคำถามทุกเวท�?เพราะมีคนร้องไปทั่ว เนื่องจากเคยขายอยู่ซองละ 72 บา�?แล้วราคาลดลงเหลือ 60 บา�?จะเหลือก็เพียงเรื่องสแตมป์สรรพสามิตที่มีหลายรูปแบบมาก ทำอย่างไรให้มีรูปแบบน้อยลง ถูกล�?และทำอย่างไรให้สามารถติดตามได้จากแสตมป์ว่า บริษัทซื้อไปเมื่อไหร่ สินค้าชนิดไห�?ถูกชนิดถูกตัวหรือเปล่า โดยสมัยที่เป็นกรรมการธนาคารแห่งประเทศไท�?(ธป�?) ได้เจรจาขอให้ธปท.พิมพ์แสตมป์ให้ เนื่องจากราคาถูกกว่าเอกชนที่ราคาค่อนข้างสูง ธป�?ก็ยอมทำให้ครั้งหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่า Tปท.จะถ่ายทอดความรู้ให้กับโรงงานไพ�?เพื่อให้โรงงานไพ่มาพิมพ์แสตมป์ให้กร�?ซึ่งไม่รู้ว่าขณะนี้ดำเนินการไปถึงไหน แต่เข้าใจว่า รูปแบบแสตมป์จะลดน้อยลง และมีคิวอาร์โค้ดแล้ว ถือเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเรื่อ�?�?#8221; นอกจากนี�?กฎหมายใหม่ยังระบุให้กรมต้องทำเรื่องราคาขายปลีกแนะน�?ซึ่งทะเลาะกันอยู่นา�?เพราะสินค้าเดียวกันขายกันหลายราคาและต่างกันมาก เข้าใจว่า ตอนนี้มีกำลังทำเรื่องราคาไวน�?การมีราคาแนะนำจะทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเป็นธรร�?ไม่เช่นนั้นก็เก็บขวดละ 1 พันบาทไม่ว่าจะเป็นไวน์แบรนด์ไหน

ลวรณ แสงสนิ�?เอ๊�?ภาษีไวน์-รถยนต์ไฟฟ้�?/h2>

นายลวร�?แสงสนิ�?ปลัดกระทรวงการคลัง มาในฐานะอดีตอธิบดีกรมสรรพสามิตในช่วงโรคโควิดกำลังระบาด กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้ทำ 2 เรื่อ�?เรื่องแรก คือการจัดเก็บภาษีไวน�?ที่สนใจเรื่องไวน์เพราะสัปดาห์แรกที่มาเป็นอธิบด�?ก็ได้รับรายงานผลการจัดเก็บรายได�?พบว่�?กรมสามารถจัดเก็บภาษีเบียร�?ได้ปีล�?8 หมื่นล้านบาท ภาษีเหล้า 6 หมื่นล้านบาท แต่ต้องมาเอ๊ะกับตัวเลขจัดเก็บภาษีไวน�?ที่ได้เพียง 1.5 พันล้านบาท แสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน�?เพราะคนไทยบริโภคไวน์เยอ�?ก็พบว่�?มาจากปัญหาหลากหลาย ทั้งในเชิงยี่ห้�?ทั้งในเชิงปีผลิ�?ไวน์ยี่ห้อเดียวกั�?ผลิตคนละปี ราคาก็แตกต่างกัน “วิธีแก้ปัญหาของกรมตอนนั้นคือ กำหนดอัตราที่สูงเอาไว�?ผมจึงตัดสินใจสร้างฐานข้อมูลราคาไวน�?และจัดเก็บอัตราไม่ต้องสูงเพื่อจูงใจให้คนที่อยู่ใต้ดินมาเสียภาษ�?เพราะเชื่อว่าคนที่อยู่ใต้ดินมีมากกว่าคนที่อยู่บนดิ�?คนบนดินเองก็ยั�?under declare อี�?ถ้าอัตราภาษีน้อยเขาไม่รู้จะหลบเลี่ยงภาษีทำไ�?ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ผมภูมิใจช่วงอยู่กรมสรรพสามิ�?อีกเรื่องคือการสนับสนุนนโยบายรถไฟฟ้า ที่ตอนนั้นความสำเร็จจะอยู่ที่สิทธิประโยชน์ที่กรมจะให้ โดยใช้ประสบการณ์เรื่องรถคันแรกมาออกแบบใหม�?แทนที่จะดีลกับคนซื้อล้านกว่าคน ไม่สนุกแน่ ก็ดีลกับผู้ค้าที่มีหลักสิบรายแทน และถ้าทำเรื่องรถไฟฟ้าอย่างจริงจังจะเปลี่ยนโฉมประเทศไทยจากที่เคยเป็นฮับรถยนต์เครื่องยนต์ แต่ต้องกล้าแลก นี่เป็นสิ่งที่ผมพูดกับรัฐบาลในวันนั้�?และเป็นที่มาของการให้ส่วนลดเป็นแสนบา�?และลดภาษีด้ว�?ทำให้วันนี้รถไฟฟ้าเข้าสู่ประเทศไทยได้ มีการลงทุนตามเงื่อนไ�?นี่คือสิ่งที่ปลดล็อกไว�?คือให้ลองทำตลาดรถไฟฟ้าก่อน กำหนดยอดขายที่ต้องมาตั้งโรงงาน เพราะตั้งโรงงานเมื่อไหร่ก็หนีไม่ได้แล้�?#8221; “การมาทำงานที่กรมสรรพสามิตทำให้พบจุดแข็งที่นี่ คื�?คนของกรมที่มีความสามัคคี และพร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายเต็มที่ แตกต่างจากส่วนราชการอื่นที่เคยอยู่มาที่จะมีอาณาเขตของใครของมัน แต่กรมสรรพสามิตเวลามีปัญหาแล้วโยนลงไปตรงกลาง ทุกคนพร้อมจะมาช่วยกันแก้ปัญห�?นี่คือจุดแข็งมาก ไม่เคยเห็นในองค์กรไหน นอกจากนี�?ที่นี่มีระบบการใช้เทคโนโลยีที่ด�?มีการเปลี่ยนผ่านมาสู่เทคโนโลยีที่เป็นดิจิตอล แต่ก็ยังสามารถอัพเกรดให้ดีขึ้นอีกจากพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว”

“สมชั�?ฤชุพันธ์” ต่อสู้ ‘ยุ�?#8217;กรมสรรพาสามิ�?/h2>

ปิดท้ายด้วยนายสมชั�?ฤชุพันธ์ อดีตอธิบดีกรมสรรพสามิตระหว่างป�?2539-2542 เรียกได้ว่ารับตำแหน่งได�?6 เดือน ก็เจอกับวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เวลานั้นมีการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้เงินบาทลดค่าจาก 28 บาทต่อดอลลาร�?มาเป็�?54 บาทต่อดอลลาร�?ธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ปิดกิจการกันมากมาย รัฐบาลไทยต้องขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และนำไปสู่การทำโปรแกรมกับไอเอ็มเอฟที่ตั้งเงื่อนไขให้ไทยต้องทำอะไรที่ยากลำบาก เป็นการรัดเข็มขัด

โดยเรื่องหนึ่งที่ไอเอ็มเอฟขอ คื�?การยุบกรมสรรพสามิต ช่วงที่ผมเป็นอธิบด�?จึงเป็นช่วงเวลาของการต่อสู้เพื่อความอยู่รอ�?ว่ากรมสรรพสามิตจะมีอยู่ต่อไปหรือไม�?ซึ่งขณะนั้�?คุณธารินทร�?นิมมานเหมินท์ รัฐมนตรีคลัง พอรับฟังความเห็นของเอ็มเอฟแล้วก็มาเสนอว่าจะยุบกรมสรรพสามิ�?แล้วเรียกผมไปหารื�?ผมบอกว่าเราไม่อยากยุบ เพราะกรมนี้ตั้งมานานแล้�?มีเอกลัษณ์ของตนเอง มีภารกิจสำคัญและความเชี่ยวชาญในการเก็บภาษีที่เรียกว่�?ภาษีตามสภา�?ไม่ใช่ภาษีตามราคานะครั�?เราไปนับขวด นับลิตรนับน้ำมัน และจัดเก็บได้ผลดี การมีองค์กรเช่นนี้ดีมา�?เหมือนที่หลายคนพู�?องค์กรนี้มีความเป็นระบ�?มีวินั�?พร้อมจะร่วมมือกันทำทุกอย่างอย่างจริง ทำให้การจัดเก็บได้ผล แม้จะระบบภาษีนี้จะเปลี่ยนไปเยอะก็ตาม อย่างกรมสรรพาก�?บางคนบอกว่าการจัดเก็บจะลดลงไปมาก แต่กรมสรรพสามิ�?ผมเห็นว่า ยังเก็บได้เพิ่มอยู่ และหลังจากเจรจากับรัฐมนตรีคลังแล้�?เราก็รอ�?/p> นายสมชัย กล่าวว่า อีกช่วงที่อยากพูดถึง คื�?ช่วงท้ายของการเป็นอธิบด�?จะต้องมีการประมูลโรงเหล้า ที่มีการผูกขาดโดยรัฐ เดิมรัฐเป็นผู้ผลิต และดำเนินการขา�?ภายหลังมีการนำโรงเหล้าไปประมูลให้เอกชนมาดำเนินการทุ�?4 ปี แต่ตอนนั้นมีนโยบายใหม่ คื�?เปิดเสรีการผลิตเหล้า

และมาถึงวันนี้การพัฒนามาในแนวทางที่ถูกต้อง คื�?เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่อ�?ESG ที่กำลังเป็นเทรนด��ของโล�?ใ���อนาคตถ้าประเทศไทยไม่ปรับตัวจะแข่งขันไม่ได้ บทบาทนี้จึงเป็นบทบาทสำคั�?หากกรมพัฒนาด้านนี้ได�?จะช่วยเหลือประเทศไทยไม่เฉพาะในด้านการหารายได�?แต่จะทำให้ประเทศไทยมีความยั่งยืน และมีความสามารถในการแข่งขันในโลกได้ด้ว�?/strong>

]]> //microclismi.com/2024/03/newground53/ Mon, 25 Mar 2024 11:40:50 +0000 //microclismi.com/?p=340859 เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์

“แฟนเราคนนั้นไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน เวลาทะเลาะกันครั้งแรก�?ก็ไม่มีอะไ�?แต่พอเวลาโมโ�?เค้าก็ลงไม้ลงมื�?เราอยู่กับความสัมพันธ์แบบนี้มาหลายป�?และตัดสินใจไปหาจิตแพทย�?แต่วันนี้เราออกจากความสัมพันธ์นั้นแล้ว�?/p> ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวกับผู้เขียนว่�?ความรุนแรงในความสัมพันธ์นำไปสู่อาการวิตกกังวลจนไปหาจิตแพทย�?แต่อาการเจ็บป่วยทางกายไม่ใช่เรื่องถาว�?เช่นเดียวกับการป่วยทางใ�?บทความนี้จะพามาสำรวจผู้ป่วยสุขภาพจิตว่�?เมื่อมองย้อนกลับไ�?เขามองตัวเองตอนที่ป่วยเป็นอย่างไร หายป่วยได้ยังไ�?แล้วเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อไปจากวันนี้และในอนาคตอย่างไร เมื่อเขาไม่ต้องอยู่กับอาการป่วยใจอีกแล้ว…ในวันที่หายป่วยใ�?#8230;เมื่อผู้ให้สัมภาษณ์ตัดสินใจออกจาก abusive relationship และเริ่มต้นชีวิตใหม่

“เหมือนขึ้นอยู่กับอารมณ์แฟ�?บางวันเค้าก็อารมณ์ด�?บางวันมีเรื่องไม่ค่อยน่าพอใจก็ดูนิ่งๆ เราก็พยายามไม่เข้าไปยุ่�?เพราะกลัวจะไปกระตุ้นอารมณ์เค้า�?ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนเดินอยู่บนเปลือกไข่ที่ไม่รู้จะแตกออกเมื่อไรนี�?นำมาซึ่งความไม่แน่นอนทางอารมณ์และส่งผลต่อความสัมพันธ�?“พอเค้าใจเย็นลงก็เข้ามาง้อบ้าง ส่วนใหญ่เราเป็นฝ่ายง้อและขอโทษเค้ามากกว่า ทั้งที่หลายครั้งก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดน�?และเค้าก็ใช้กำลังก่อนตลอด�?/p>

“จนวันหนึ่งเพื่อนแนะนำให้ลองคุยกับจิตแพทย์ดู เพราะเห็นเราวิตกกังว�?และคงได้ยินเราปรับทุกข์เรื่องความสัมพันธ์บ่อยๆ จนถึงวันนี้เราว่�?เราเรียนรู้หลายๆ อย่าง�?

การใช้กำลังกันในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะของคู่รักนั้นแสดงออกผ่านหลายรูปแบบ เช่�?การทำร้ายทางอารมณ์ ถูกด่าทอ ถูกทำให้รู้สึกแย�?ไปจนถึงการทำร้ายร่างกา�?/p>

ผู้ให้สัมภาษณ์บอกกับเราว่�?สิ่งที่ดีที่สุดคือการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลงให้ได�?และให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได�?ระหว่างทางของการจบความสัมพันธ์นี้เอง เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องเรียนรู้วิธีการจัดการกับมัน และพยายามก้าวต่อไปให้ได้

“เราเองเราว่�?มันยากนะที่จะขอความช่วยเหลือ เอาแค่ต้องบอกเพื่อนๆ ว่าถูกแฟนทำร้ายก็แย่แล้ว กลัวคนอื่นมองเราหรือมองแฟนไม่ด�?หรือฟังแล้วไม่เชื่อเรา แต่นี่เป็นขั้นตอนแรกเลยของการเยียวยา เราต้องเชื่อว่าจะมีคนรับฟังและสนใจความรู้สึกเรา�?การขอรับการช่วยเหลือเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันมีหน่วยงานจำนวนมากที่สามารถให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือได�?หากเราถูกทำร้า�?/p>

“เราเรียนรู้ว่า เราไม่ควรขอโทษเมื่อเราไม่ได้ทำผิ�?และเราไม่ควรปล่อยให้เกิดพฤติกรรมรุนแรง�?หลายครั้งคนที่ชอบทำร้ายมักจะทำให้อีกฝ่ายเชื่อว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนทำผิด และการที่ถูกทำร้ายนั้นเป็นเรื่องชอบธรรมแล้ว เป็นการทำโท�?เป็นการจัดการกับความผิดของเรา แต่จริงๆ การที่แฟนทำร้ายเรามันไม่ใช่ความผิดของเรา แม้ว่าการทำร้ายนั้นอาจเป็นการทำร้ายทางอารมณ�?หรือเป็นการทำร้ายร่างกา�?โดยไม่ได้���ุนแรงเหมือนในข่า�?ความรุนแรงที่เกิดขึ้นแม้จะแค่���รั้งเดียว ก็มักนำไปสู่ความรุนแรงที่มากขึ้นในอนาค�?/strong>

“เวลาคนทะเลาะกัน จิตแพทย์บอกว่า สิ่งที่เราควรทำคือการทำให้อารมณ์สงบล�?เพื่อควบคุมสถานการณ�?แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือ ต่างฝ่ายต่างทำให้การทะเลาะหนักขึ้นไปอีก ส่วนที่แย่ที่สุดของการถูกทำร้ายคือ มันมักจะหยุดลงเมื่อเราไม่โต้ตอบ�?หลังจากพบจิตแพทย์ได้ระยะหนึ่�?ผู้ให้สัมภาษณ์ก็ตัดสินใจวางแผนยุติความสัมพันธ์ “เราว่�?เรื่องที่คนเป็นแฟนมีพันธะต่อ��ั�?เช่�?สัตว์เลี้ย�?ธุรกิจ การรู้จักครอบครัวของอีกฝ่า�?ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งเสียดาย หากความสัมพันธ��มันต้องจบลง�?/em>

“มีเพื่อนเรา ตอนเลิกกับแฟ�?แฟนก็ตามมาเจอ เพราะแชร์ GPS ร่วมกันในโทรศัพท�?ต้องพยายามอธิบายอยู่นานกว่าจะยอมกลับบ้าน�?การคิดถึงสถานที่ที่ปลอดภัยหลังการจบความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งหมดนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเราเอง การยุติความสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเป็นเรื่องที่เราต่างต้องเรียนรู�?และไม่ควรให้โอกา�?หากเราตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลงแล้ว “หลังเลิกกันประมาณ 3 เดือน เราก็ยังไปหาจิตแพทย์อยู่ตลอดน�?กินยาตามที่หมอสั่ง เดือนแรกๆ หนักมา�?เหมือนความปกติของชีวิตมันเปลี่ยนไป แต่พอเราเริ่มอยู่ด้วยตัวเองได�?เราเหมือนได้ชีวิตใหม�?ไม่ต้องคอยกลัวว่าใครจะมาจับผิด หรือทำอะไรไม่ถูกใจใครแล้วจะถูกใช้กำลัง หรือจะมีใครมาบังคับให้เราทำนู่นทำนี่�?สุดท้ายเราต่างต้องก้าวต่อไปและรักชีวิตตัวเอง

หลังความสัมพันธ์แบ�?abusive จบสิ้นแล้ว ก็เป็นเวลาให้เราเริ่มสร้างทางเดินของเราขึ้นมาอีกครั้ง ไม่มีคำว่าสายไปสำหรับทางเดินที่ปลอดภัยจากความรุนแรง “เราเรียนรู้ว่า ไม่ใช่เรื่องผิดเลยที่หลังเลิกกันแล้วเราจะนอนร้องไห้บนเตียง ไม่ทำอะไ�?แทบจะไม่กินอะไรเกือบสัปดาห�?เรามองมันเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่เกิดขึ้�?และหลังจากนั้น มันคุ้มค่ามา�?เหมือนผ่านพายุฝ�?เหมือนคลื่นลมสงบแล้�?เราได้เจอกับความสุข�?/p>

ผู้ให้สัมภาษณ์แนะนำว่า ต้องเมตตากับตัวเอง ไม่กลับไปในวังวนของค��ที่ทำร้ายเราอี�?ปล่อยวางอดีต ปล่อยวางความกลัวลง แล้วมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยมกับชีวิตอีกครั้�?เราไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคนที่ทำร้ายเราอีกแล้�?/strong>

]]> //microclismi.com/2024/03/or-ptt-station-flgship-saf-ev-station-pluz-pr-25032024/ Mon, 25 Mar 2024 10:04:57 +0000 //microclismi.com/?p=340931 ข่าวประชาสัมพันธ�?/strong>

นายดิษทั�?ปันยารชุ�?ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปต�? น้ำมันและการค้าปลี�?จำกั�?(มหาช�? หรือ OR ร่วมถ่ายทอดแนวคิดของ OR ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำในการเสวนาในหัวข้อ “Energy Transition การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ�?ในโอกาสเปิดตัวสำนักข่า�?Climate Center โด�?“ฐานเศรษฐกิจ�?�?โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไ�?กรุงเทพ�?/p> นายดิษทั�?ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของ OR ในการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อ�?ซึ่งเป็นสิ่งที่ OR ให้ความสำคัญมาโดยตลอ�?และชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ OR ในการเป็นผู้บุกเบิกสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่านทา�?platform ต่าง�?ขอ�?OR ซึ่งครอบคลุมทั้งในกลุ่มธุรกิ�?Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในป�?�?�? 2030  แล�?Net Zero ปี 2050 ผ่านกลยุทธ�?3 ด้าน ประกอบด้วย

• การบุกเบิกด้านพลังงานแห่งอนาค�?เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านของการใช้พลังงาน (Pioneering the low carbon shift : OR’s Mobility Solution) ไม่ว่าจะเป็นการหนุนการใช้พลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งเครื่องชาร์�?EV Station PluZ ครอบคลุมเส้นทางหลัก 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าขยายหัวชาร์จให้คร�?7,000 หัวชาร์จ ในปี�?�? 2573 (�?�? 2030) นอกจากนี�?ยังเสริมความแข็งแกร่งด้านพลังงานแห่งอนาค�?(Future Energy) ด้วยการเปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสาหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) แห่งแรกของประเทศไท�?ร่วมกั�?บริษัท ปต�? จำกั�?(มหาช�? บริษัท โตโยต้�?มอเตอร์ ประเทศไท�?จำกั�?และบริษั�?บางกอกอินดัสเทรียลแก๊�?จำกั�?เพื่อขยายผลการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงยังได้ร่วมกับการบินไทยทดลองนำร่องใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (SAF)
• การพัฒนา Platform แห่งอนาค�?เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและการใช้ชีวิตที่หลากหลา�?(Propelling Seamless Energy Transition : OR’s network of the future) ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านแพลตฟอร์มแห่งอนาคต (Future Platform) โด�?OR ได้เปิ�?พีทีที สเตชั่�?แฟลกชิ�?วิภาวด�?62 สถานีบริการต้นแบบในอนาคต ซึ่งถือเป็นต้นแบ�?“Green Station�?โดยใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด (Renewable Energy) 100 % ผ่านการใช้พลังงานจาก Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี�?(G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุ�?และการซื้อพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการใช้เอกสารสิทธิ์เพื่อยืนยันการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ REC (Renewable Energy Certificate) รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV มาช่วยคำนวณคาร์บอนของรถที่เข้�?ออ�?ในสถานีบริการเพื่อร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอน
• การผลักดันให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจสู่ความเป็�?Green ตลอดทั้งระบบนิเวศน์ขอ�?OR (Promoting Green value Chain : OR’s Ecosystem) ผ่านโครงการต่า�?�?ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเมล็ดกาแฟแบบยั่งยืน (Green Sourcing) ซึ่งประกอบไปด้วย การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ  ส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยื�?โดยปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรในรูปแบบการปลูกเชิงเดี่ย�?สู่การสร้างป่าเชิงนิเวศน์ในพื้นที่ปลูกกาแ�?และการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรง โดยล่าสุ�?OR ได้เปิดจุดรับซื้อและโรงแปรรูปกาแฟคาเฟ่ อเมซอน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดรับซื้อเมล็ดกาแฟกะลาอะราบิกาจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรงในราคาที่เป็นธรร�?นอกจากนี�?OR ยังบุกเบิกโครงการด้าน Green Logistics ด้วยการนำร่องใช้รถไฟฟ้าขนาดใหญ่ขนส่งเมล็ดกาแฟดิบเส้นทางระยะไกลรายแรกของไท�?ตลอดจนผลักดันการปรับรูปแบบการขนส่งผลิตภัณฑ�?เพื่อมุ่งเน้นการลดคาร์บอ�?โดยการขนส่งน้ำมันผ่านทางท่อมากขึ้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในการปฏิบัติงา�?(Green Operation) รวมถึงการปรับให้ทั้ง PTT Station หรือ Café Amazon เป็�?Green Outlet ที่ใช้พลังงานสะอาด และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในร้า�?Café Amazon

นอกจากนี�?OR ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน โดยได้ร่วมกับหลากหลายหน่วยงานในการส่งเสริมการปลูกและรับซื้อกาแฟจากเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายเมล็ดกาแฟที่มั่นค�?มีตลาดที่แน่นอ�?ในระบบราคาที่เป็นธรร�?(Fair Trade) ควบคู่กับการพัฒนาความรู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมาอย่างต่อเนื่อ�?โดยตั้งแต่ปี 2558-2566 OR ได้สนับสนุนเกษตรกรด้วยการเป็นตลาดรับซื้อกาแฟสารจากเกษตรกรไทยรวมแล้วกว่า 6,109 ตั�?(6,109,000 กิโลกรัม) หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,100 ล้านบา�?และตั้งเป้าหมายว่าภายในป�?�?�? 2570 จะสามารถขยายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นแปลงปลูกกาแฟและไม้ร่มเงารวมทั้งสิ้�?4,600 ไร�?ส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแ�?1,800 ครัวเรือน อย่างยั่งยืน และเป็นตลาดรับซื้อในระบบ Fair trade สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกว่า 200 ล้านบา�?ปี อีกทั้งยังมีแนวคิดในการพัฒนาอุทยานคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon Park) บนพื้นที่กว่�?300 ไร�?�?ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คาเฟ่ อเมซอน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้�?และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิ�?(ecosystem) ของคาเฟ่ อเมซอนให้ยั่งยืน

OR มุ่งตอบโจทย์วิถีแห่งอนาค�?ผ่านแนวทาง SDG ในแบบฉบับของ OR ที่คำนึงถึงมิติสังคม ชุมช�?สิ่งแวดล้อมควบคู่การเติบโตทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กเพื่อยกระดับสังคมชุมช�?(S-Small) สร้างการเติบโตผ่านแพลตฟอร์มขอ�?OR (D-Diversified) ตลอดจนการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อ�?เพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (G-Green) ซึ่ง OR ได้นำไปสู่การลงมือปฏิบัติจริ�?แบ�?In Action ตั้งแต่กลยุทธ์ แผนปฏิบัติการและเป้าหมายธุรกิจจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวที่มั่นคงสู่เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในปี 2030 (OR 2030 Goals) ที่ครอบคลุมทั้งสังคมชุมช�?สิ่งแวดล้อ�?และผลการดำเนินการที่ด�?อย่างยั่งยืนต่อไ�?นายดิษทั�?กล่าวเสริมในตอนท้า�?/p>

]]> //microclismi.com/2024/03/axa-international-market-ceo-pr-25032024/ Mon, 25 Mar 2024 09:50:12 +0000 //microclismi.com/?p=340924 ข่าวประชาสัมพันธ�?/p>

แอกซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เกต ประกาศแต่งตั้ง นางแซลลี�?โอฮาร่�?ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่า ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย�?และประเทศเกาหลีใต้ โดยจะรับผิดชอบดูแลการบริหารงานโดยตรงในประเทศไท�?อินโดนีเซี�?เกาหลีใต้ และเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นในประเทศฟิลิปปินส์ ในขณะที่ยังคงมีห��้าที่ และความรับผิดชอบในฐานะคณะกรรมการบริหารระดับสูงขอ�?แอกซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เกต ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนกลยุทธ์หลักสำหรับตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่มลูกค้าทั่วไป การบริหารจัดการส่งมอบประสบการณ์ของลูกค้าจากต้นทางถึงปลายทา�?รวมถึงการผลักดันให้มีประกันสำหรับกลุ่มเปราะบา�?โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษาย�?2567 

]]> //microclismi.com/2024/03/centralpattana-imaginingbetterfuturesforall-pr-25032024/ Mon, 25 Mar 2024 09:42:37 +0000 //microclismi.com/?p=340917 ข่าวประชาสัมพันธ�?/strong>

• ผลักดั�?Low Carbon Construction ร่วมกับกลุ่ม Developer ชั้น�?าของไท�?เลือกใช�?ผลิตภัณฑร์ักษโ์ลกในกลุ่มซีเมนต์คอนกรี�?และกรีนโซลูชัน
• ทั้งการใช้ปู�?Low Carbon ที่โครงการมิกซย์ ูส เซ็นทรั�?นครสวรรค�?และเซ็นทรั�?นครปฐม รวมถึงการรีไซเคิลเสาเข็มที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่การพัฒนาโครงการเซ็นทรัล�?ศรีราช�?และเซ็นทรั�?จันทบุรี
• พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมา�?NET Zero 2050 ผ่านการจัด�?�?Net Zero Pathway และควา�?ร่วมมือกับ Green Partners อย่างต่อเนื่อ�?/li>

กรุงเทพฯ�?/span>�?span lang="TH"> บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกั�?(มหาช�? ผู้นำเบอร์ 1 อสังหาริมทรัพย์ไทยยั่งยืนระด�?wbr />บโลกบน DJSI World 2023 และผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรั�?/span>, โครงการที่อยู่อาศั�?/span>, อาคารสำนักงา�?และโรงแรมทั่วประเทศ ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยท�?wbr />ศน์�?/span>‘Imagining better futures for all’�?span lang="TH">มุ่งพัฒน�?‘พื้นที่�?ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิ�?สังค�?และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าเป้าหมาย�?/span>NET Zero 2050 อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี�?เข้าร่วมรับรางวัลโล่เกียรติคุณกลุ่ม Developer ชั้นนำของเมืองไทยร่วมสร้างอุตสาหกรรมก่อสร้างสีเขียว ในงา�?/span> Inclusive Green Growth Days Empowered by SCG: เติบโตและยั่งยืนไปด้วยกัน โดยมี คุณชาตร�?โกวิทานุพงศ์ Executive Project Director, Regional Development 1 บม�?เซ็นทรัลพัฒนา เข้ารับรางวัลจาก นายสุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน

นายชาตรี โกวิทานุพงศ์ Executive Project Director Regional Development 1 บม�?เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ทางเซ็นทรัลพัฒนารู้สึกยินด�?wbr />อย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจาก�?/span>Cement and Green Solution Business ภายใต้ SCG ในครั้งนี้ โดยที่ผ่านมาเราได้จับมือเป็นพ�?wbr />นธมิตรกันเพื่อผลักดันสร้างสังคมคาร์บอนต่�?นำร่องโครงการต้นแบบ�?/span>Framework Pathway to Net Zero Building Guideline นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีขององค�?wbr />กรที่มีทิศทางด้านความยั่งยืน โดยเราได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกในกลุ่มซีเมนต์ คอนกรี�?และกรีนโซลูชันในการพัฒนาและก�?wbr />อสร้างโครงการมิกซ์ยูสสำค�?wbr />ญของเราคื�?โครงการเซ็นทรั�?นครสวรรค์ และโครงการ เซ็นทรั�?นครปฐม ที่เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่�?/span>30 มี.�?67 โดยเลือกใช้ปูน Low Carbon รวมถึงมีการรีไซเคิลเสาเข็มที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่การพัฒนาโครงการเซ็นทรั�?ศรีราชา และเซ็นทรัลจันทบุรี และการดำเนินงานภายใต้ Green Standard ต่าง�?ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่ช�?wbr />วยให้เราเดินหน้าสู่เป้าหมาย�?/span>NET Zero 2050 ได้อย่างเป็น���ูปธรรมและต่อเนื�?wbr />อง�?/span>

ทั้งนี�?เซ็นทรัลพัฒนา มีแผนการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่�?/span>NET Zero 2050 หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส�?wbr />ทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 แบ่งได้�?/span>3 หมวดหลัก คื�?

หมวดที่�?/span>1: Decarbonized operational emissions ผ่านการดำเนินงาน ได้แก่ 1) ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า 2) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอา�?(solar) 3) ลดขยะฝังกลบ�?/span>4) ลดการใช้น้ำ�?/span>5) ชวนร้านค้าผู้เช่าลดการใช้พลังงานและแยกขย�?/span>;

หมวดที่�?/span>2: Decarbonized embodied emission ผ่านการดำเนินงาน ได้แก่ 1) การนำมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากล�?/span>Green building เช่น�?/span>LEED, TREES, EDGE มาเป็นแนวทางในการก่อสร้าง 2) การวัด LCA-Life cycle assessment ของการก่อสร้าง 3) ร่วมมือกับ supplier และ�?/span>contractor ในการเพิ่มปริมาณรีไซเคิลในว�?wbr />สดุก่อสร้า�?แล�?

หมวดที่�?/span>3: Carbon removal โดยการปลูกป่า���ดแทน และ�?/span>R&D เพื่อหานวัตกรรม Sustianovation มาช่วย capture carbon

]]> //microclismi.com/2024/03/kcg-transition-towards-sustainable-growth/ Mon, 25 Mar 2024 06:33:15 +0000 //microclismi.com/?p=340737